มาตรา ๘๘
เมื่อคู่ความฝ่ายใดมีความจำนงที่จะอ้างอิงเอกสารฉบับใดหรือคำเบิกความของพยานคนใด
หรือมีความจำนงที่จะให้ศาลตรวจบุคคล วัตถุ สถานที่
หรืออ้างอิงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่ศาลตั้งหรือความเห็นของผู้มีความรู้เชี่ยวชาญ
[1]เพื่อเป็นพยานหลักฐานสนับสนุนข้ออ้างหรือข้อเถียงของตน
ให้คู่ความฝ่ายนั้น[2]ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาล[3]ก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน
โดยแสดงเอกสารหรือสภาพของเอกสารที่จะอ้าง และ[4]รายชื่อ
ที่อยู่ของบุคคล ผู้มีความรู้เชี่ยวชาญ วัตถุ
หรือสถานที่ซึ่งคู่ความฝ่ายนั้นระบุอ้างเป็นพยานหลักฐาน หรือขอให้ศาลไปตรวจ
หรือขอให้ตั้งผู้เชี่ยวชาญแล้วแต่กรณี
พร้อมทั้งสำเนาบัญชีระบุพยานดังกล่าวในจำนวนที่เพียงพอ
เพื่อให้คู่ความฝ่ายอื่นมารับไปจากเจ้าพนักงานศาล
ถ้าคู่ความฝ่ายใดมีความจำนงจะยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติม
ให้ยื่นคำแถลงขอระบุพยานเพิ่มเติมต่อศาลพร้อมกับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมและสำเนาบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมดังกล่าวได้ภายในสิบห้าวันนับแต่วันสืบพยาน
เมื่อระยะเวลาที่กำหนดให้ยื่นบัญชีระบุพยานตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสองแล้วแต่กรณี
ได้สิ้นสุดลงแล้ว ถ้าคู่ความฝ่ายใดซึ่งได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แล้ว มีเหตุอันสมควรแสดงได้ว่า[5]ตนไม่สามารถทราบได้ว่าต้องนำพยานหลักฐานบางอย่างมาสืบเพื่อประโยชน์ของตนหรือไม่ทราบว่าพยานหลักฐานบางอย่างได้มีอยู่
หรือมีเหตุอันสมควรอื่นใด หรือถ้าคู่ความฝ่ายใดซึ่งมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานแสดงให้เป็นที่พอใจแก่ศาลได้ว่า
มีเหตุอันสมควรที่ไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานตามกำหนดเวลาดังกล่าวได้
คู่ความฝ่ายนั้นอาจ[6]ยื่นคำร้องขออนุญาตอ้างพยานหลักฐานเช่นว่านั้นต่อศาลพร้อมกับบัญชีระบุพยานและสำเนาบัญชีระบุพยานดังกล่าวไม่ว่าเวลาใด
ๆ ก่อนพิพากษาคดีและถ้าศาลเห็นว่า เพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาด[7]ข้อสำคัญแห่งประเด็นเป็นไปโดยเที่ยงธรรม
จำเป็นจะต้องสืบพยานหลักฐานเช่นว่านั้น ก็ให้ศาลอนุญาตตามคำร้อง
[1]
หมายถึง ข้ออ้างข้อเถียงในประเด็นแห่งคดีเท่านั้น
หากเป็นการไต่สวนคำร้องต่าง ๆ เช่น
การไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่
ไม่อยู่ในบังคับต้องยื่นภายในกำหนดของมาตรา ๘๘
,เว้นการคำร้องขอให้ชำระหนี้จำนองต้องยื่นภายในกำหนด,หากมีการยื่นในชั้นไต่สวนคำร้องแล้วถือว่ายื่นทั้งคดีเช่นยื่นบัญชีระบุชั้นไต่สวนคำร้องอนาถาโดยไม่ได้ระบุว่าเป็นเฉพาะชั้นไต่สวนคำร้อง
แสดงว่าคูความประสงค์ยื่นทั้งคดีหรือแม้ระบุว่ายื่นไต่สวนอนาถาแต่ชั้นพิจารณายื่นคำแถลงว่าขอระบุพยานเพิ่มเติมถือว่าเป็นการขอนำบัญชีชั้นอนาถาเป็นบัญชีระบุพยานชั้นพิจารณาด้วย
, เอกสารที่ใช้ในการถามค้านที่พยานรับรองแล้วไม่จำต้องระบุพยานไว้(ถามตามมาตรา
๘๙) เพราะไม่ใช้พยานที่สนับสนุนแต่เป็นการทำลายน้ำหนักพยาน , เอกสารที่คู่ความแนบมากับคำคู่ความไม่อยู่ในบังคับต้องยื่นบัญชีระบุพยานเช่นหนังสือสัญญาชื้อขายแนบมาท้ายฟ้องหรือพยานหลักฐานที่คู่ความรับว่ามีอยู่จริง
เช่นการยอมรับว่าเคยมีการฟ้องร้องคดีกันแล้ว , การอ้างคดีเรื่องอื่นในศาลเดียวกันเพียงแต่ระบุพยานไว้และได้เสียค่าอ้างก็ถือว่าเป็นเอกสารในสำนวนแล้วแต่หากเป็นศาลอื่นเพียงแต่ระบุพยานไว้และได้เสียค่าอ้างแต่ไม่ได้ขอให้ศาลเรียกมาไม่ถือว่เป็นพยานหลักฐานในสำนวน,พยานผู้เชี่ยวชาญ
กรณีเป็นการอ้างต้องยื่นบัญชีระบุพยาน
หากศาลเห็นเป็นการจำเป็นและสมควรตั้งผู้เชี่ยวชาญซึ่งเป็นอำนาจของศาลตามม.๙๙
ไม่จำต้องยื่นฯ
[2]
การยื่นบัญชีระบุพยานจะกระทำได้ต่อเมื่อมีการสืบพยานฝ่ายนั้นด้วย
[3]
วันสืบพยาน หมายถึงวันที่ศาลเริ่มต้นสืบพยาน ซึ่งหมายถึงวันที่มีการสืบพยานกันจริง
ๆ ,เจ็ดวันหมายถึงเจ็ดวันเต็ม
[4]
มีแต่รายชื่อไม่มีที่อยู่เป็นบัญชีระบุพยานที่ไม่ชอบ เช่น ยื่นบัญชีระบุพยานระบุว่าที่อยู่จะเสนอต่อศาลในวันออกหมายเรียก,
[5]
ต้องอ้างให้เข้าสามเหตุ จึงจะยื่นได้ กรณีไม่เข้าได้แก่
เพิ่งได้พบพยาน
บัญชีระบุพยานที่ยื่นไว้ไม่ครบถ้วนหรือเพราะเป็นความพลั้งเผลอของทนายไม่เข้าเหตุ
ที่เข้าเหตุได้แก่
สำเนาคำพิพากษาที่ระบุเพิ่มเติศาลเพิ่งมีคำพิพากษา,อ้างว่าทนายเจ็บป่วยเป็นเหตุอันสมควร
,ศาลจะรับหรือไม่ต้องพิจารณาว่าพยานที่อ้างเกี่ยวกับพยานแห่งคดีหรือไม่(แม้จะอ้างเข้าเหตุ)
,แม้อ้างไม่เข้าเหตุศาลอาจใช้อำนาตตามมาตรา ๘๗ วรรคสองได้
,นำไปใช้ชั้นอุทธรณ์ฎีกาได้
[6]
ต้องยื่นเป็นคำร้อง หากคู่ความทำเป็นคำแถลงศาลไม่รับไว้พิจารณา
เพราะมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย
[7]
ต้องเป็นหลักฐานสำคัญและต้องเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีด้วย กล่าวคือ
ต้องเป็นพยานหลักฐานที่สามารถพิสูจน์หรือชี้ขาดเป็นข้อแพ้ชนะคดีได้ กรณีไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เช่น
ปัญหาว่าโจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยเท่าใด ไม่ใช่ข้อแพ้ชนะแห่งคดี
ประกาศของกระทรวงการคลัง
เรื่องอัตราดอกเบี้ยจึงไม่ใช่พยานหลักฐานอันสำคัญเกี่ยวกับข้อสำคัญในคดี
เมื่อไม่ระบุบัญชีพยาน ศาลไม่มีอำนาจรับฟัง
,
โดยเฉพาะการที่คู่ความไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๘๘ และ ๙๐
เป็นการเอาเปรียบเชิงคดี ศาลไม่รับฟังเอกสารนั้นได้ เช่น
อ้างพยานเอกสารถามค้านพยานปากสุดท้ายทั้งที่เอกสารอยู่กับตน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น